ดูวิดีโอตอนนี้ เปิดนาทีปะทะคารม ก่อนรถขนดินขับหนี ไม่ยอมชั่งน้ำหนัก 'วิโรจน์' จี้สอบ 'สติกเกอร์ดาวบีสีเขียว'
วานนี้ (8 พ.ย. 66) เวลา 16.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่ผู้รับเหมาก่อสร้าง ได้นำรถแบคโฮมาทยอยตักดินออกจากรถบรรทุก คันที่ตกลงไปในบ่ออุโมงค์สายไฟฟ้าของการไฟฟ้านครหลวง ถ่ายดินไปยังรถบรรทุกอีกคัน เพื่อเตรียมการชั่งน้ำหนัก ว่าบรรทุกน้ำหนักเกินหรือไม่
ปรากฎว่า เมื่อรถบรรทุกอีกคันมีดินจำนวนหนึ่ง ได้ขับรถนำดินไปเททิ้งที่ไซด์งาน แต่หลังจากนั้น เจ้าหน้าที่ตัวแทนของการไฟฟ้านครหลวง ได้เข้ามาคุยกับผู้รับเหมาว่า ไม่เหมือนกับที่คุย และประชุมกัน
เพราะเมื่อผู้รับเหมาตักดินออกจากรถบรรทุกคันที่ประสบเหตุแล้ว จะต้องให้เจ้าหน้าที่มาชั่งน้ำหนัก ก่อนที่จะนำไปเทคืน แต่ผู้รับเหมากลับนำดินดังกล่าวไปเทคืนยังไซด์งานเดิม ทำให้ไม่มีการชั่งน้ำหนักดินดังกล่าว ว่ามีการบรรทุกหมากจำนวนเท่าไหร่
ขณะที่ ทีมงาน กทม.ได้นั่งจักรยานยนต์ตามรถบรรทุกที่ตักดินถ่ายออกมา ตามเข้าไปดูที่ไซส์งาน ก็พบว่า มีการนำดินไปเททิ้งตามเดิม และมีการล็อกประตูไม่ให้เข้าพื้นที่
เมื่อพยายามสอบถามเจ้าของรถบรรทุกว่า ทำไมถึงนำดินไปเท ไม่รอชั่งน้ำหนัก เจ้าตัวปฏิเสธที่จะให้ข้อมูล บอกไม่ขอให้สัมภาษณ์ใด ๆ
ด้านตัวแทนการไฟฟ้านครหลวง บอกว่า จากการที่เข้าไปคุยกับผู้รับเหมา ก็คุยไม่รู้เรื่อง พูดเพียงว่าให้นำทนายความมาคุยอย่างเดียว ตนเองจึงได้มีการโต้แย้งโวยวายกับเจ้าของรถบรรทุกจนปะทะคารมกัน เนื่องจากไม่เป็นไปตามที่คุยกันไว้ หลังจากนั้น เจ้าหน้าที่การไฟฟ้าจึงต้องถอยออกมา
ขณะเดียวกัน เจ้าของรถบรรทุกไม่ให้ตรวจชั่งน้ำหนักรถ เเม้ทางกรุงเทพมหานคร จะนำเครื่องชั่งน้ำหนักเคลื่อนที่เข้ามา ทำให้ทาง สส.เขตบางนา-พระโขนง ‘โตโต้ ปิยรัฐ จงเทพ’ ได้เข้ามาเพื่อจะขอตรวจ เเละวัดน้ำหนักรถบรรทุก คนขับรถที่นำรถมาถ่ายดินเเล้วขับนำดินเข้าไปเททิ้งในไซส์งานตามเดิม
โดย สส.โตโต้ และทีมงาน ได้เดินตามเข้าไปดูภายในไซต์งาน ระบุว่า ถือว่าเป็นการทำลายหลักฐาน จึงเรียกร้องให้ทุกหน่วยงานเอาผิดกับเจ้าของรถบรรทุก
นายฐิติวุฒิ เงินคล้าย รองผู้ว่าการ การไฟฟ้านครหลวง (MEA) ลงพื้นที่ เผยว่า
จากเหตุที่เกิดขึ้น พบความเสียหายที่ปากบ่อพักสายไฟ คือคานรับน้ำหนักที่หักลงมา ส่วนแผ่นปูนไม่ได้มีความเสียหาย ยืนยันว่า การก่อสร้างเป็นไปตามแบบ และมาตรฐาน ที่ยื่นไปกับ กทม. สามารถรับน้ำหนักขั้นต่ำได้ 28 ตัน และใช้งานมากว่าหนึ่งเดือนแล้ว ประกอบกับที่ผ่านมา ได้มีการตรวจสอบความคงทนแข็งแรงมาโดยตลอด
เมื่อถามว่า มีความเสียหายระดับไหน
นายฐิติวุฒิ ตอบว่า ยังไม่สามารถระบุได้ เนื่องจากยังไม่เห็นโครงสร้างภายใน และยังไม่มีการเคลื่อนย้ายรถบรรทุกดังกล่าวออกไป แต่หากเคลื่อนย้ายรถบรรทุกดังกล่าวออกไปได้แล้ว คาดว่า ใช้เวลา 4-5 ชั่วโมง ในการซ่อมแซม และคืนผิวจราจรทั้งหมด ไม่เกินเที่ยงคืนนี้ เป็นอย่างเร็ว
เมื่อถามว่า จะซ่อมแซมอย่างไร
นายฐิติวุฒิ ระบุว่า จะมีการเปลี่ยนแผ่นปูนทั้ง 4 แผ่น ใหม่ทั้งหมด และจะใช้คานตัวใหม่มารองรับ ส่วนจะเพิ่มคานรอบรับตามที่ผู้ว่าฯ พูดไปก่อนหน้านี้หรือไม่ ตนเองขอไปคุยกับทีมวิศวกร และทางกรมโยธาก่อนว่า จะดำเนินการใช้คานจำนวนเท่าไหร่ หรือจะปรับโครงสร้างคานใหม่หรือไม่
ยืนยันจะคำนึงเรื่องความปลอดภัย และความมั่นคงเป็นหลัก ส่วนการดำเนินการเอาผิด ขอตรวจสอบว่า เป็นความผิดในส่วนใด และจะดำเนินการภายหลัง
วานนี้ (8 พ.ย. 66) เวลา 18.30 น. นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล พร้อมด้วย นายปิยรัฐ จงเทพ ส.ส.พรรคก้าวไกล เขตพระโขนง เดินทางมาตรวจสอบที่เกิดเหตุ
พร้อมกับ ทวงถามต่อ พ.ต.ท.ประกอบ อินทร์เกตุ รอง ผกก.จร.สน.พระโขนง เรื่องกรณีรถบรรทุกสิบล้อคันเกิดเหตุ มีการถ่ายเทดินออกจากท้ายรถ โดยสงสัยว่า มีการบรรทุกน้ำหนักเกิน และอาจเป็นเครือข่ายส่วยสติกเกอร์ทางหลวง
นายวิโรจน์ กล่าวว่า ตนมีคำถามเรื่องตำรวจปล่อยให้มีการยุ่งกับวัตถุพยานหลักฐานได้อย่างไร ซึ่งหลักฐานตรงนี้ สามารถทำให้พิสูจน์ได้ว่า รถบรรทุกน้ำหนักเกินหรือไม่ แล้วตำรวจได้ดู ป.วิอาญา หรือเปล่า
ด้าน พ.ต.ท.ประกอบ ตอบกลับว่า ขั้นตอนในช่วงการตักดินนั้น มีคนอยู่จำนวนมาก รวมถึงสื่อมวลชน ทำให้ไม่มีใครสามารถปิดบังได้ โดยเป็นจังหวะที่กำลังชุลมุน ทางรถบรรทุกได้มีการเลี้ยวรถหลบเข้าไป และถ่ายเทดิน
ซึ่งตรงนี้ จะต้องมีการตรวจสอบต่อไป ว่านำดินไปทิ้งตรงไหนอย่างไร จึงขอทำการตรวจสอบ และรายงานผู้บังคับบัญชาตามระดับชั้นต่อไป
ส่วนตนนั้น มาดูแลปัญหาการจราจร และแก้ปัญหาจุดนี้ให้เร็วที่สุด ซึ่งขณะที่มีการตักดิน ตนไม่ได้เฝ้าอยู่ตลอดเวลา ซึ่งจุดตรงนี้ยังไม่ทราบว่ามีอะไรผิดพลาดบ้าง เนื่องจากมีทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ และเจ้าหน้าที่เขต ช่วยกันเฝ้าดู ทั้งการจราจร และประชาชนที่ไปมา รวมถึงของกลาง โดยทางเขต มีการเรียกตำรวจทางหลวง ซึ่งรับผิดชอบงานตราชั่งมาเพื่อรอไว้แล้ว
นายวิโรจน์ ระบุว่า ต้องมีการดำเนินคดีทำลายวัตถุหลักฐาน เจ้าหน้าที่ตำรวจละเลยได้อย่างไร ให้มีการเข้าไปยุ่งกับวัตถุหลักฐานที่สำคัญได้อย่างไร
“ถ้าเรื่องนี้ไม่มีในบันทึกการสอบสวน ก็ถือว่าเป็นการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ถ้าตนเองพบว่า นำดินไปเททิ้งจริง ต้องดำเนินคดีเรื่องทำลายหลักฐาน และต้องดำเนินคดีกับตำรวจที่ปล่อยประละเลย ที่ปล่อยให้มีการทำลายหลักฐานสำคัญด้วย
และต้องคำนวณทางวิศวกรรมได้ว่า ดินนำไปทิ้งกี่คันรถ และคำนวณกลับมาเป็นน้ำหนักของดินด้วย และสามารถพิสูจน์ทางวิศวกรรมว่าบรรทุกเกินหรือไม่”
อ่านข่าวเพิ่มเติมได้ที่ :
————————-
#เรื่องเล่าเช้านี้ (Morning News)
วันที่ 9 พฤศจิกายน 2566
ติดตามความเคลื่อนไหวข่าวสารก่อนใครได้ที่นี่
ch3plus :
facebook :
Twitter :
YouTube :
Tiktok :
#3PlusNews #ข่าวช่อง3
“เปิดนาทีปะทะคารม ก่อนรถขนดินขับหนี ไม่ยอมชั่งน้ำหนัก 'วิโรจน์' จี้สอบ 'สติกเกอร์ดาวบีสีเขียว'“, จากแหล่งที่มา: https://www.youtube.com/watch?v=NGpAKmQ1x8I
แฮชแท็กสำหรับ เปิดนาทีปะทะคารม ก่อนรถขนดินขับหนี ไม่ยอมชั่งน้ำหนัก 'วิโรจน์' จี้สอบ 'สติกเกอร์ดาวบีสีเขียว': #เปดนาทปะทะคารม #กอนรถขนดนขบหน #ไมยอมชงนำหนก #39วโรจน39 #จสอบ #39สตกเกอรดาวบสเขยว39
บทความ เปิดนาทีปะทะคารม ก่อนรถขนดินขับหนี ไม่ยอมชั่งน้ำหนัก 'วิโรจน์' จี้สอบ 'สติกเกอร์ดาวบีสีเขียว' มีเนื้อหาดังต่อไปนี้: วานนี้ (8 พ.ย. 66) เวลา 16.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่ผู้รับเหมาก่อสร้าง ได้นำรถแบคโฮมาทยอยตักดินออกจากรถบรรทุก คันที่ตกลงไปในบ่ออุโมงค์สายไฟฟ้าของการไฟฟ้านครหลวง ถ่ายดินไปยังรถบรรทุกอีกคัน เพื่อเตรียมการชั่งน้ำหนัก ว่าบรรทุกน้ำหนักเกินหรือไม่
ปรากฎว่า เมื่อรถบรรทุกอีกคันมีดินจำนวนหนึ่ง ได้ขับรถนำดินไปเททิ้งที่ไซด์งาน แต่หลังจากนั้น เจ้าหน้าที่ตัวแทนของการไฟฟ้านครหลวง ได้เข้ามาคุยกับผู้รับเหมาว่า ไม่เหมือนกับที่คุย และประชุมกัน
เพราะเมื่อผู้รับเหมาตักดินออกจากรถบรรทุกคันที่ประสบเหตุแล้ว จะต้องให้เจ้าหน้าที่มาชั่งน้ำหนัก ก่อนที่จะนำไปเทคืน แต่ผู้รับเหมากลับนำดินดังกล่าวไปเทคืนยังไซด์งานเดิม ทำให้ไม่มีการชั่งน้ำหนักดินดังกล่าว ว่ามีการบรรทุกหมากจำนวนเท่าไหร่
ขณะที่ ทีมงาน กทม.ได้นั่งจักรยานยนต์ตามรถบรรทุกที่ตักดินถ่ายออกมา ตามเข้าไปดูที่ไซส์งาน ก็พบว่า มีการนำดินไปเททิ้งตามเดิม และมีการล็อกประตูไม่ให้เข้าพื้นที่
เมื่อพยายามสอบถามเจ้าของรถบรรทุกว่า ทำไมถึงนำดินไปเท ไม่รอชั่งน้ำหนัก เจ้าตัวปฏิเสธที่จะให้ข้อมูล บอกไม่ขอให้สัมภาษณ์ใด ๆ
ด้านตัวแทนการไฟฟ้านครหลวง บอกว่า จากการที่เข้าไปคุยกับผู้รับเหมา ก็คุยไม่รู้เรื่อง พูดเพียงว่าให้นำทนายความมาคุยอย่างเดียว ตนเองจึงได้มีการโต้แย้งโวยวายกับเจ้าของรถบรรทุกจนปะทะคารมกัน เนื่องจากไม่เป็นไปตามที่คุยกันไว้ หลังจากนั้น เจ้าหน้าที่การไฟฟ้าจึงต้องถอยออกมา
ขณะเดียวกัน เจ้าของรถบรรทุกไม่ให้ตรวจชั่งน้ำหนักรถ เเม้ทางกรุงเทพมหานคร จะนำเครื่องชั่งน้ำหนักเคลื่อนที่เข้ามา ทำให้ทาง สส.เขตบางนา-พระโขนง ‘โตโต้ ปิยรัฐ จงเทพ’ ได้เข้ามาเพื่อจะขอตรวจ เเละวัดน้ำหนักรถบรรทุก คนขับรถที่นำรถมาถ่ายดินเเล้วขับนำดินเข้าไปเททิ้งในไซส์งานตามเดิม
โดย สส.โตโต้ และทีมงาน ได้เดินตามเข้าไปดูภายในไซต์งาน ระบุว่า ถือว่าเป็นการทำลายหลักฐาน จึงเรียกร้องให้ทุกหน่วยงานเอาผิดกับเจ้าของรถบรรทุก
นายฐิติวุฒิ เงินคล้าย รองผู้ว่าการ การไฟฟ้านครหลวง (MEA) ลงพื้นที่ เผยว่า
จากเหตุที่เกิดขึ้น พบความเสียหายที่ปากบ่อพักสายไฟ คือคานรับน้ำหนักที่หักลงมา ส่วนแผ่นปูนไม่ได้มีความเสียหาย ยืนยันว่า การก่อสร้างเป็นไปตามแบบ และมาตรฐาน ที่ยื่นไปกับ กทม. สามารถรับน้ำหนักขั้นต่ำได้ 28 ตัน และใช้งานมากว่าหนึ่งเดือนแล้ว ประกอบกับที่ผ่านมา ได้มีการตรวจสอบความคงทนแข็งแรงมาโดยตลอด
เมื่อถามว่า มีความเสียหายระดับไหน
นายฐิติวุฒิ ตอบว่า ยังไม่สามารถระบุได้ เนื่องจากยังไม่เห็นโครงสร้างภายใน และยังไม่มีการเคลื่อนย้ายรถบรรทุกดังกล่าวออกไป แต่หากเคลื่อนย้ายรถบรรทุกดังกล่าวออกไปได้แล้ว คาดว่า ใช้เวลา 4-5 ชั่วโมง ในการซ่อมแซม และคืนผิวจราจรทั้งหมด ไม่เกินเที่ยงคืนนี้ เป็นอย่างเร็ว
เมื่อถามว่า จะซ่อมแซมอย่างไร
นายฐิติวุฒิ ระบุว่า จะมีการเปลี่ยนแผ่นปูนทั้ง 4 แผ่น ใหม่ทั้งหมด และจะใช้คานตัวใหม่มารองรับ ส่วนจะเพิ่มคานรอบรับตามที่ผู้ว่าฯ พูดไปก่อนหน้านี้หรือไม่ ตนเองขอไปคุยกับทีมวิศวกร และทางกรมโยธาก่อนว่า จะดำเนินการใช้คานจำนวนเท่าไหร่ หรือจะปรับโครงสร้างคานใหม่หรือไม่
ยืนยันจะคำนึงเรื่องความปลอดภัย และความมั่นคงเป็นหลัก ส่วนการดำเนินการเอาผิด ขอตรวจสอบว่า เป็นความผิดในส่วนใด และจะดำเนินการภายหลัง
วานนี้ (8 พ.ย. 66) เวลา 18.30 น. นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล พร้อมด้วย นายปิยรัฐ จงเทพ ส.ส.พรรคก้าวไกล เขตพระโขนง เดินทางมาตรวจสอบที่เกิดเหตุ
พร้อมกับ ทวงถามต่อ พ.ต.ท.ประกอบ อินทร์เกตุ รอง ผกก.จร.สน.พระโขนง เรื่องกรณีรถบรรทุกสิบล้อคันเกิดเหตุ มีการถ่ายเทดินออกจากท้ายรถ โดยสงสัยว่า มีการบรรทุกน้ำหนักเกิน และอาจเป็นเครือข่ายส่วยสติกเกอร์ทางหลวง
นายวิโรจน์ กล่าวว่า ตนมีคำถามเรื่องตำรวจปล่อยให้มีการยุ่งกับวัตถุพยานหลักฐานได้อย่างไร ซึ่งหลักฐานตรงนี้ สามารถทำให้พิสูจน์ได้ว่า รถบรรทุกน้ำหนักเกินหรือไม่ แล้วตำรวจได้ดู ป.วิอาญา หรือเปล่า
ด้าน พ.ต.ท.ประกอบ ตอบกลับว่า ขั้นตอนในช่วงการตักดินนั้น มีคนอยู่จำนวนมาก รวมถึงสื่อมวลชน ทำให้ไม่มีใครสามารถปิดบังได้ โดยเป็นจังหวะที่กำลังชุลมุน ทางรถบรรทุกได้มีการเลี้ยวรถหลบเข้าไป และถ่ายเทดิน
ซึ่งตรงนี้ จะต้องมีการตรวจสอบต่อไป ว่านำดินไปทิ้งตรงไหนอย่างไร จึงขอทำการตรวจสอบ และรายงานผู้บังคับบัญชาตามระดับชั้นต่อไป
ส่วนตนนั้น มาดูแลปัญหาการจราจร และแก้ปัญหาจุดนี้ให้เร็วที่สุด ซึ่งขณะที่มีการตักดิน ตนไม่ได้เฝ้าอยู่ตลอดเวลา ซึ่งจุดตรงนี้ยังไม่ทราบว่ามีอะไรผิดพลาดบ้าง เนื่องจากมีทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ และเจ้าหน้าที่เขต ช่วยกันเฝ้าดู ทั้งการจราจร และประชาชนที่ไปมา รวมถึงของกลาง โดยทางเขต มีการเรียกตำรวจทางหลวง ซึ่งรับผิดชอบงานตราชั่งมาเพื่อรอไว้แล้ว
นายวิโรจน์ ระบุว่า ต้องมีการดำเนินคดีทำลายวัตถุหลักฐาน เจ้าหน้าที่ตำรวจละเลยได้อย่างไร ให้มีการเข้าไปยุ่งกับวัตถุหลักฐานที่สำคัญได้อย่างไร
“ถ้าเรื่องนี้ไม่มีในบันทึกการสอบสวน ก็ถือว่าเป็นการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ถ้าตนเองพบว่า นำดินไปเททิ้งจริง ต้องดำเนินคดีเรื่องทำลายหลักฐาน และต้องดำเนินคดีกับตำรวจที่ปล่อยประละเลย ที่ปล่อยให้มีการทำลายหลักฐานสำคัญด้วย
และต้องคำนวณทางวิศวกรรมได้ว่า ดินนำไปทิ้งกี่คันรถ และคำนวณกลับมาเป็นน้ำหนักของดินด้วย และสามารถพิสูจน์ทางวิศวกรรมว่าบรรทุกเกินหรือไม่”
อ่านข่าวเพิ่มเติมได้ที่ :
————————-
#เรื่องเล่าเช้านี้ (Morning News)
วันที่ 9 พฤศจิกายน 2566
ติดตามความเคลื่อนไหวข่าวสารก่อนใครได้ที่นี่
ch3plus :
facebook :
Twitter :
YouTube :
Tiktok :
#3PlusNews #ข่าวช่อง3
คำหลักสำหรับ เปิดนาทีปะทะคารม ก่อนรถขนดินขับหนี ไม่ยอมชั่งน้ำหนัก 'วิโรจน์' จี้สอบ 'สติกเกอร์ดาวบีสีเขียว': [คำหลัก]
ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ เปิดนาทีปะทะคารม ก่อนรถขนดินขับหนี ไม่ยอมชั่งน้ำหนัก 'วิโรจน์' จี้สอบ 'สติกเกอร์ดาวบีสีเขียว':
ขณะนี้วิดีโอนี้มียอดดู 46091 วิดีโอสร้างขึ้นเมื่อ 2023-11-09 11:24:45 คุณต้องการดาวน์โหลดวิดีโอนี้โดยไปที่ลิงก์ต่อไปนี้: https://www.youtubepp.com/watch?v=NGpAKmQ1x8I, แท็ก: #เปดนาทปะทะคารม #กอนรถขนดนขบหน #ไมยอมชงนำหนก #39วโรจน39 #จสอบ #39สตกเกอรดาวบสเขยว39
ขอขอบคุณที่รับชมวิดีโอ: เปิดนาทีปะทะคารม ก่อนรถขนดินขับหนี ไม่ยอมชั่งน้ำหนัก 'วิโรจน์' จี้สอบ 'สติกเกอร์ดาวบีสีเขียว'