ดูวิดีโอตอนนี้ เพื่อไทย กลับลำ ? ไม่ปล่อย "ประธานสภาฯ" ให้ก้าวไกล ลั่นควรไปโหวตในสภาฯ
สนามข่าว 7 สี – ทีนี้คงมีคำถามว่า เมื่อได้ สส. ครบ 500 คนแล้ว ไทม์ไลน์การเมืองจะไปอย่างไรต่อ อย่างแรกเลยคือ สส. ทั้งหมด ซึ่งตอนนี้ก็ถือว่าเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรชุดที่ 26 ต้องไปรายงานตัวต่อสภาฯ จากนั้นก็รอว่าจะมีการประชุมรัฐสภานัดแรกเมื่อไหร่
กางไทม์ไลน์ ประชุมรัฐสภานัดแรก 20 มิ.ย.-4 ก.ค. 66
ซึ่งตามรัฐธรรมนูญปี 2560 บัญญัติไว้ในมาตรา 121 วรรคแรก กำหนดไว้ว่า ภายใน 15 วัน นับแต่วันประกาศผลการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรอันเป็นการเลือกตั้งทั่วไป ให้มีการเรียกประชุมรัฐสภา เพื่อให้สมาชิกได้มาประชุมเป็นครั้งแรก โดยหากกางปฏิทินดูก็จะเห็นว่าอยู่ระหว่างวันที่ 20 มิถุนายน – 4 กรกฎาคม ก็ต้องมีการเรียกประชุมรัฐสภาครั้งแรกกันแล้ว แต่มีเสียงกระซิบมาเหมือนกันว่าอาจจะเป็นวันที่ 3 กรกฎาคม
โดยในการประชุมรัฐสภาครั้งแรก รัฐธรรมนูญมาตรา 122 กำหนดไว้ว่า พระมหากษัตริย์จะเสด็จพระราชดำเนินมาทรงทำรัฐพิธีเปิดประชุมสมัยประชุมสามัญประจำปีครั้งแรกด้วยพระองค์เอง หรือจะโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้พระรัชทายาท ซึ่งทรงบรรลุนิติภาวะแล้ว หรือ ผู้ใดผู้หนึ่ง เป็นผู้แทนพระองค์ มาทำรัฐพิธีก็ได้
มีลุ้นโหวตเลือก นายกฯ ภายในกลางเดือน ก.ค.นี้
อาจมีข้อสงสัยว่าแล้วการประชุมรัฐสภานัดแรกนี่มีความสำคัญอย่างไร จะเป็นตัวตั้งต้นในการเริ่มนับหนึ่งทั้งตำแหน่งประมุขฝ่ายนิติบัญญัติและฝ่ายบริหารเลย อย่างที่เราเคยทำไทม์ไลน์คร่าว ๆ ให้คุณผู้ชมดูกันไปแล้วว่า หลังรับรอง สส. ก็จะมีรัฐพิธีเปิดประชุมรัฐสภานัดแรก จากนั้นจะมีการประชุมสภาฯ เลือกประธานสภาฯ และรองประธานสภาฯ 2 คน ซึ่งก็ต้องรอขั้นตอนการทูลเกล้าฯ เพื่อโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งก่อน
หลังมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แล้ว ก็ถึงเวลาที่หลายฝ่ายรอคอย คือ การกำหนดวันประชุมรัฐสภา เพื่อเลือกนายกรัฐมนตรี ซึ่งตามขั้นตอนแล้วจะต้องแจ้งกำหนดการประชุม และวาระ ให้สมาชิกรัฐสภารับทราบไม่น้อยกว่า 3 วัน ถึงจะเป็นวันประชุมรัฐสภา ซึ่งด่านนี้ คุณพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ตัวแทนของ 8 พรรค จะต้องได้คะแนนเสียงสนับสนุนจากสมาชิกรัฐสภาให้ได้ 376 เสียงขึ้นไป จึงจะได้ตำแหน่งนายกรัฐมนตรี
ซึ่งโดยปกติแล้วในการเลือกนายกรัฐมนตรี ฟากเสียงข้างน้อยก็จะเสนอชื่อนายกรัฐมนตรีจากบัญชีพรรคการเมืองซีกของตัวเอง ลงชิงชัยเหมือนกัน โดยในปี 2562 ฝ่ายค้านก็เสนอชื่อ คุณธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ซึ่งไม่ใช่พรรคที่ได้คะแนนเสียงมาเป็นอันดับหนึ่งเป็นนายกรัฐมนตรี แต่แพ้ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา ไป
ส่อง สส. ฟากเสียงข้างน้อย 10 พรรค 188 เสียง
ในคราวนี้ยังไม่มีการพูดชัดเจนว่า ขั้วรัฐบาลเดิมที่ตอนนี้อาจพลิกสถานะไปเป็นฝ่ายค้านจะเสนอชื่อใคร เพราะเราจะเห็นความเคลื่อนไหวจาก 8 พรรค 312 เสียง ที่ประกาศจับมือตั้งรัฐบาล แต่ยังไม่เห็นการประชุมใด ๆ ร่วมกันของอีกฝั่งหนึ่ง
ทีนี้เรามาดูกันหน่อยว่าฝั่งรัฐบาลเดิม ตอนนี้จำนวน สส. เป็นยังไงกันบ้าง ไล่กันที่พรรคอันดับ 1 ในซีกนี้ ก็คือพรรคภูมิใจไทย ได้ สส. 71 คน, พลังประชารัฐ 40 คน, รวมไทยสร้างชาติ 36 คน, ประชาธิปัตย์ 25 คน, ชาติไทยพัฒนา 10 คน, ชาติพัฒนากล้า 2 คน และพรรคเล็กอื่น ๆ ที่ได้ สส. 1 คน อีก 4 พรรค รวมมีเสียง 188 คน แต่ในจำนวนนี้ก็ยังไม่ชัดว่าจะเดินไปในทิศทางเดียวกันหรือไม่ อย่างที่เล่าให้ฟังไปในตอนต้นว่าเขายังไม่มีการประชุมเพื่อกำหนดท่าทีร่วมกันเลย
อนุทิน กับตำแหน่ง ผู้นำฝ่ายค้านฯ
แต่ถ้าหากไม่มีการพลิกขั้ว ตามรัฐธรรมนูญ คุณอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ก็จะได้เป็นผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ในฐานะเป็นพรรคการเมืองที่มีจำนวน สส. ในสภามากที่สุด โดยไม่มีสมาชิกพรรคดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี ประธาน หรือ รองประธานสภาฯ
จับตาการเมือง พลิกขั้ว หาก พิธา ฝ่าด่าน สว. ไม่ได้
สิ่งที่ต้องลุ้นกันต่อก็คือฟากฝั่งนี้จะส่งชื่อใครชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีหรือไม่ หากส่งชิงจะส่งใคร คนก็มองไปว่าน่าจะมี 3 คน อันดับแรก คิดตามคะแนนเสียงของพรรคก็จะเป็น คุณอนุทิน แต่ถ้าคิดถึงคะแนนเสียงสนับสนุนของสมาชิกวุฒิสภาพ่วงมาด้วย พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ และ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ซึ่งหากมีการสู้ในตำแหน่งนายกรัฐมนตรีกันอย่างจริงจัง ฝั่งนี้จะต้องการเสียงจากสมาชิกวุฒิสภา 188 คน จากทั้งหมด 250 คน ถือว่ามีความเป็นไปได้เลย เพียงแต่ว่าถ้าจะมาสูตรนี้จริง ๆ ก็จะได้เป็นนายกรัฐมนตรี แต่รัฐบาลน่าจะไปไม่รอด เพราะจะกลายเป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อย
และจนถึงขณะนี้ก็ยังไม่มีการส่งสัญญาณใด ๆ ว่า สมาชิกวุฒิสภา จะโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี จากฝั่งรัฐบาลเดิม มีแต่การพูดกันว่า เสียงแตกออกเป็น 3 ส่วน คือ มีประมาณ 20 เสียง ที่ก้าวไกลมั่นใจจะโหวตให้ คุณพิธา แน่ ๆ ที่เหลือจะแบ่งเป็น ไม่โหวต และอยู่ระหว่างตัดสินใจ ซึ่งก็ไม่มีใครทราบตัวเลขที่แน่ชัดว่าเป็นอย่างไร แต่เคยมีคำยืนยันจากฝั่งรัฐบาลเดิมว่าไม่ตั้งรัฐบาลแข่ง
กดติดตามช่อง CH7HD News ได้ที่ :
ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่
#สนามข่าว7สี #ข่าวช่อง7 #CH7HDNEWS
Facebook
Ch7HD:
Ch7HD News:
Twitter
Ch7HD:
YouTube
Ch7HD:
CH7HD News:
TikTok
Ch7HD:
Ch7HD News:
Instagram
Ch7HD:
Ch7HD News:
“เพื่อไทย กลับลำ ? ไม่ปล่อย "ประธานสภาฯ" ให้ก้าวไกล ลั่นควรไปโหวตในสภาฯ “, นำมาจากแหล่งที่มา: https://www.youtube.com/watch?v=ygeeLDz-Ckc
แท็กของ เพื่อไทย กลับลำ ? ไม่ปล่อย "ประธานสภาฯ" ให้ก้าวไกล ลั่นควรไปโหวตในสภาฯ: #เพอไทย #กลบลำ #ไมปลอย #quotประธานสภาฯquot #ใหกาวไกล #ลนควรไปโหวตในสภาฯ
บทความ เพื่อไทย กลับลำ ? ไม่ปล่อย "ประธานสภาฯ" ให้ก้าวไกล ลั่นควรไปโหวตในสภาฯ มีเนื้อหาดังต่อไปนี้: สนามข่าว 7 สี – ทีนี้คงมีคำถามว่า เมื่อได้ สส. ครบ 500 คนแล้ว ไทม์ไลน์การเมืองจะไปอย่างไรต่อ อย่างแรกเลยคือ สส. ทั้งหมด ซึ่งตอนนี้ก็ถือว่าเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรชุดที่ 26 ต้องไปรายงานตัวต่อสภาฯ จากนั้นก็รอว่าจะมีการประชุมรัฐสภานัดแรกเมื่อไหร่
กางไทม์ไลน์ ประชุมรัฐสภานัดแรก 20 มิ.ย.-4 ก.ค. 66
ซึ่งตามรัฐธรรมนูญปี 2560 บัญญัติไว้ในมาตรา 121 วรรคแรก กำหนดไว้ว่า ภายใน 15 วัน นับแต่วันประกาศผลการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรอันเป็นการเลือกตั้งทั่วไป ให้มีการเรียกประชุมรัฐสภา เพื่อให้สมาชิกได้มาประชุมเป็นครั้งแรก โดยหากกางปฏิทินดูก็จะเห็นว่าอยู่ระหว่างวันที่ 20 มิถุนายน – 4 กรกฎาคม ก็ต้องมีการเรียกประชุมรัฐสภาครั้งแรกกันแล้ว แต่มีเสียงกระซิบมาเหมือนกันว่าอาจจะเป็นวันที่ 3 กรกฎาคม
โดยในการประชุมรัฐสภาครั้งแรก รัฐธรรมนูญมาตรา 122 กำหนดไว้ว่า พระมหากษัตริย์จะเสด็จพระราชดำเนินมาทรงทำรัฐพิธีเปิดประชุมสมัยประชุมสามัญประจำปีครั้งแรกด้วยพระองค์เอง หรือจะโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้พระรัชทายาท ซึ่งทรงบรรลุนิติภาวะแล้ว หรือ ผู้ใดผู้หนึ่ง เป็นผู้แทนพระองค์ มาทำรัฐพิธีก็ได้
มีลุ้นโหวตเลือก นายกฯ ภายในกลางเดือน ก.ค.นี้
อาจมีข้อสงสัยว่าแล้วการประชุมรัฐสภานัดแรกนี่มีความสำคัญอย่างไร จะเป็นตัวตั้งต้นในการเริ่มนับหนึ่งทั้งตำแหน่งประมุขฝ่ายนิติบัญญัติและฝ่ายบริหารเลย อย่างที่เราเคยทำไทม์ไลน์คร่าว ๆ ให้คุณผู้ชมดูกันไปแล้วว่า หลังรับรอง สส. ก็จะมีรัฐพิธีเปิดประชุมรัฐสภานัดแรก จากนั้นจะมีการประชุมสภาฯ เลือกประธานสภาฯ และรองประธานสภาฯ 2 คน ซึ่งก็ต้องรอขั้นตอนการทูลเกล้าฯ เพื่อโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งก่อน
หลังมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แล้ว ก็ถึงเวลาที่หลายฝ่ายรอคอย คือ การกำหนดวันประชุมรัฐสภา เพื่อเลือกนายกรัฐมนตรี ซึ่งตามขั้นตอนแล้วจะต้องแจ้งกำหนดการประชุม และวาระ ให้สมาชิกรัฐสภารับทราบไม่น้อยกว่า 3 วัน ถึงจะเป็นวันประชุมรัฐสภา ซึ่งด่านนี้ คุณพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ตัวแทนของ 8 พรรค จะต้องได้คะแนนเสียงสนับสนุนจากสมาชิกรัฐสภาให้ได้ 376 เสียงขึ้นไป จึงจะได้ตำแหน่งนายกรัฐมนตรี
ซึ่งโดยปกติแล้วในการเลือกนายกรัฐมนตรี ฟากเสียงข้างน้อยก็จะเสนอชื่อนายกรัฐมนตรีจากบัญชีพรรคการเมืองซีกของตัวเอง ลงชิงชัยเหมือนกัน โดยในปี 2562 ฝ่ายค้านก็เสนอชื่อ คุณธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ซึ่งไม่ใช่พรรคที่ได้คะแนนเสียงมาเป็นอันดับหนึ่งเป็นนายกรัฐมนตรี แต่แพ้ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา ไป
ส่อง สส. ฟากเสียงข้างน้อย 10 พรรค 188 เสียง
ในคราวนี้ยังไม่มีการพูดชัดเจนว่า ขั้วรัฐบาลเดิมที่ตอนนี้อาจพลิกสถานะไปเป็นฝ่ายค้านจะเสนอชื่อใคร เพราะเราจะเห็นความเคลื่อนไหวจาก 8 พรรค 312 เสียง ที่ประกาศจับมือตั้งรัฐบาล แต่ยังไม่เห็นการประชุมใด ๆ ร่วมกันของอีกฝั่งหนึ่ง
ทีนี้เรามาดูกันหน่อยว่าฝั่งรัฐบาลเดิม ตอนนี้จำนวน สส. เป็นยังไงกันบ้าง ไล่กันที่พรรคอันดับ 1 ในซีกนี้ ก็คือพรรคภูมิใจไทย ได้ สส. 71 คน, พลังประชารัฐ 40 คน, รวมไทยสร้างชาติ 36 คน, ประชาธิปัตย์ 25 คน, ชาติไทยพัฒนา 10 คน, ชาติพัฒนากล้า 2 คน และพรรคเล็กอื่น ๆ ที่ได้ สส. 1 คน อีก 4 พรรค รวมมีเสียง 188 คน แต่ในจำนวนนี้ก็ยังไม่ชัดว่าจะเดินไปในทิศทางเดียวกันหรือไม่ อย่างที่เล่าให้ฟังไปในตอนต้นว่าเขายังไม่มีการประชุมเพื่อกำหนดท่าทีร่วมกันเลย
อนุทิน กับตำแหน่ง ผู้นำฝ่ายค้านฯ
แต่ถ้าหากไม่มีการพลิกขั้ว ตามรัฐธรรมนูญ คุณอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ก็จะได้เป็นผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ในฐานะเป็นพรรคการเมืองที่มีจำนวน สส. ในสภามากที่สุด โดยไม่มีสมาชิกพรรคดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี ประธาน หรือ รองประธานสภาฯ
จับตาการเมือง พลิกขั้ว หาก พิธา ฝ่าด่าน สว. ไม่ได้
สิ่งที่ต้องลุ้นกันต่อก็คือฟากฝั่งนี้จะส่งชื่อใครชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีหรือไม่ หากส่งชิงจะส่งใคร คนก็มองไปว่าน่าจะมี 3 คน อันดับแรก คิดตามคะแนนเสียงของพรรคก็จะเป็น คุณอนุทิน แต่ถ้าคิดถึงคะแนนเสียงสนับสนุนของสมาชิกวุฒิสภาพ่วงมาด้วย พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ และ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ซึ่งหากมีการสู้ในตำแหน่งนายกรัฐมนตรีกันอย่างจริงจัง ฝั่งนี้จะต้องการเสียงจากสมาชิกวุฒิสภา 188 คน จากทั้งหมด 250 คน ถือว่ามีความเป็นไปได้เลย เพียงแต่ว่าถ้าจะมาสูตรนี้จริง ๆ ก็จะได้เป็นนายกรัฐมนตรี แต่รัฐบาลน่าจะไปไม่รอด เพราะจะกลายเป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อย
และจนถึงขณะนี้ก็ยังไม่มีการส่งสัญญาณใด ๆ ว่า สมาชิกวุฒิสภา จะโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี จากฝั่งรัฐบาลเดิม มีแต่การพูดกันว่า เสียงแตกออกเป็น 3 ส่วน คือ มีประมาณ 20 เสียง ที่ก้าวไกลมั่นใจจะโหวตให้ คุณพิธา แน่ ๆ ที่เหลือจะแบ่งเป็น ไม่โหวต และอยู่ระหว่างตัดสินใจ ซึ่งก็ไม่มีใครทราบตัวเลขที่แน่ชัดว่าเป็นอย่างไร แต่เคยมีคำยืนยันจากฝั่งรัฐบาลเดิมว่าไม่ตั้งรัฐบาลแข่ง
กดติดตามช่อง CH7HD News ได้ที่ :
ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่
#สนามข่าว7สี #ข่าวช่อง7 #CH7HDNEWS
Facebook
Ch7HD:
Ch7HD News:
Twitter
Ch7HD:
YouTube
Ch7HD:
CH7HD News:
TikTok
Ch7HD:
Ch7HD News:
Instagram
Ch7HD:
Ch7HD News:
คำหลักของ เพื่อไทย กลับลำ ? ไม่ปล่อย "ประธานสภาฯ" ให้ก้าวไกล ลั่นควรไปโหวตในสภาฯ: [คำหลัก]
ข้อมูลเพิ่มเติมของ เพื่อไทย กลับลำ ? ไม่ปล่อย "ประธานสภาฯ" ให้ก้าวไกล ลั่นควรไปโหวตในสภาฯ:
ขณะนี้วิดีโอนี้มีจำนวนการดู 195166 วันที่สร้างวิดีโอคือ 2023-06-20 03:40:19 คุณสามารถดาวน์โหลดวิดีโอนี้ได้โดยไปที่ลิงก์นี้: https://www.youtubepp.com/watch?v=ygeeLDz-Ckc , tag: #เพอไทย #กลบลำ #ไมปลอย #quotประธานสภาฯquot #ใหกาวไกล #ลนควรไปโหวตในสภาฯ
ขอบคุณที่รับชมวิดีโอ: เพื่อไทย กลับลำ ? ไม่ปล่อย "ประธานสภาฯ" ให้ก้าวไกล ลั่นควรไปโหวตในสภาฯ