ส่องนโยบาย 2 พรรคใหญ่ ก้าวไกล-เพื่อไทย ก่อนทำสัญญาร่วมรัฐบาล | เลือกตั้ง 66 วาระคนไทย

ดูวิดีโอตอนนี้ ส่องนโยบาย 2 พรรคใหญ่ ก้าวไกล-เพื่อไทย ก่อนทำสัญญาร่วมรัฐบาล | เลือกตั้ง 66 วาระคนไทย

ห้องข่าวภาคเที่ยง – จากท่าทีของบรรดาว่าที่พรรคร่วมรัฐบาล จะเห็นจุดร่วมอยู่อย่างหนึ่งที่ไม่อยากจะพูดถึง คือ ปมร้อนแก้ไขมาตรา 112 แต่ความจริงก็ยังมีอีกหลายนโยบายในส่วนของสองพรรคใหญ่ที่มีทั้งลงตัว และเห็นต่าง

ส่องนโยบาย 2 พรรคใหญ่ ร่วมกันได้หรือไม่
เริ่มที่นโยบายแรก การแก้ไขมาตรา 112 ที่บัญญัติเอาไว้ว่า ผู้ใดหมิ่นประมาท หรืออาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ ต้องระวางโทษจำคุก 3-15 ปี

โดย พรรคก้าวไกล ประกาศจุดยืนทำต่อแน่ เพราะมองว่าโทษหนักเกินไป ควรปรับลดโทษลง เหลือจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือ ปรับไม่เกิน 3 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ รวมถึงถอดมาตรานี้ออกจากหมวดความมั่นคง เพิ่มเติมเนื้อหาให้สำนักพระราชวัง เป็นผู้ร้องทุกข์กล่าวโทษเอง

ขณะที่ พรรคเพื่อไทย มองว่า มาตรา 112 ปัญหา คือ การบังคับใช้ ส่วนตัวบทกฎหมาย หากจะแก้ไขต้องมีการพูดคุยกันในสภาฯ เสียก่อน

ส่วนนโยบายต่อมาที่ยังมีมุมมองที่แตกต่างกันอยู่บ้างระหว่าง 2 พรรค คือ กระเป๋าเงินดิจิทัล แจกเงิน 1 หมื่นบาท ให้ผู้มีอายุตั้งแต่ 16 ปีขึ้นไป เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ 6 เดือน ของพรรคเพื่อไทย โดย ก้าวไกล มองว่า เป็นการเสนอแก้ปัญหาเศรษฐกิจในระยะสั้น และต้องการให้สร้างงานในระยะยาวมากกว่า

ต่อที่นโยบายตรงกัน แต่อาจมีรายละเอียดต่างกันเล็กน้อย คือ เรื่องทหารรับใช้ชาติ พรรคก้าวไกล เสนอยกเลิกการเกณฑ์ทหาร หันไปใช้ระบบสมัครใจ รวมทั้งปรับลดขนาดกองทัพ ลดจำนวนนายพลเหลือ 30-40 เปอร์เซ็นต์ แต่ฝั่งเพื่อไทย เสนอปฏิรูปกองทัพเป็นทหารมืออาชีพ เกณฑ์ทหารโดยสมัครใจเช่นกัน

เช่นเดียวกับนโยบายแก้รัฐธรรมนูญ เรื่อง การป้องกันการทำ รัฐประหาร ที่ตรงกัน โดยพรรคเพื่อไทย เสนอกฎหมายป้องกันต่อต้านการรัฐประหาร ให้เป็นความผิดฐานเป็นกบฏ ไม่มีกำหนดอายุความ นิรโทษกรรมไม่ได้

ส่วนพรรคก้าวไกล ให้ดำเนินคดีในความผิดฐานกบฏเช่นกัน และเสนอห้ามนิรโทษกรรม เพิ่มสิทธิ์ให้ประชาชนและเจ้าหน้าที่ปฏิเสธการทำตามรัฐประหารได้

นโยบายที่เรานำเสนอตอนต้น ก็ได้เห็นว่ามีจุดต่างกันอยู่ ก็เกิดข้อสงสัยหากต้องร่วมกันจริง ๆ จะไปกันได้แน่หรือ

ลุ้น MOU ก้าวไกล ตกลงกันได้หรือไม่
16.00 น. วันนี้จะมีความเคลื่อนไหวการเมืองที่สำคัญเกิดขึ้น คือ การหารือร่วมกันระหว่าง 6 พรรค ที่ ก้าวไกล เป็นแกนนำตั้งรัฐบาลว่าจะตกลงกันได้หรือไม่

เรียกว่าอยากปิดจ็อบเร็วสำหรับ พรรคก้าวไกล หลังผ่านการเลือกตั้งมา 3 วัน ก็เริ่มขยับจับมืออีก 5 พรรค เพื่อทำ MOU ร่วมกันว่า มีเงื่อนไขอะไรที่จะร่วมรัฐบาลกันบ้าง โดยสาเหตุที่ต้องจัดทำ MOU เนื่องจากแต่ละพรรคมีการหาเสียงที่แตกต่างกัน จึงต้องตกลงร่วมกันว่าเมื่อจะร่วมรัฐบาลแล้วมีอะไรทำได้ ทำไม่ได้ และจะยอมรับเงื่อนไขกันได้แค่ไหน

ขณะที่ แกนนำเพื่อไทย ยังสงวนท่าทีขอรอดูเงื่อนไขของทางพรรคก้าวไกลก่อน ถ้ามีอะไรที่ไปด้วยกันได้ก็ทำได้เลย แต่อะไรที่ไม่ตรงกันต้องมาคุยกันก่อน

ส่วนท่าทีของพรรคการเมืองอื่น ๆ ก็เป็นไปในทิศทางเดียวกัน ขอรอดู MOU ที่พรรคก้าวไกล จัดทำมาก่อน แต่เบื้องต้นก็เรียกว่ามีความพร้อมที่จะจับมือกันแล้ว เนื่องจากเป็นขั้วฝ่ายค้านเดิม เคยทำงานร่วมกันมาก่อน มีเพียง 2 พรรคใหม่คือ ไทยสร้างไทย กับ เป็นธรรม ซึ่งก็ไม่น่าจะมีปัญหาที่จะเข้าร่วมรัฐบาล แต่ที่น่าสังเกตคือ บรรดาแกนนำพรรคการเมือง ต่างก็หลีกเลี่ยงที่จะพูดในประเด็นแก้ไขมาตรา 112 ที่ก้าวไกลชูธงนำในการหาเสียงครั้งนี้ และมีบางคนคาดการณ์ว่าเย็นนี้ได้พูดคุย แต่อาจยังไม่ถึงขั้นลงนามใน MOU

มีเพียงคนเดียวที่พูดจุดยืนชัดว่าไม่เห็นด้วยกับก้าวไกลในบางประเด็นเกี่ยวกับมาตรา 112 โดยเฉพาะเรื่องให้สำนักพระราชวัง เป็นผู้ร้องทุกข์ เมื่อเกิดการกระทำผิดขึ้น

ที่คิดกันว่าเย็นนี้จะได้เห็นภาพจับมือประกาศตั้งรัฐบาลร่วมกัน อาจต้องลุ้นหน่อยว่าสุดท้ายจะจบแค่ได้เจอ หรือจะไปต่อถึงขั้นจูงมือกันเข้าสภา พร้อมสัตยาบันโหวตเลือก คุณพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล เป็นนายกรัฐมนตรี

โดยยังมีสัญญาณบางอย่างจาก นายทักษิณ ชินวัตร ในคลับเฮาส์เมื่อคืน ที่น่าสนใจคือ แนะทางออกหากเสนอชื่อคุณพิธา แล้ว สว. ไม่โหวตให้ ก็ไปดึงพรรคการเมืองอื่นมาร่วมด้วย

ทางด้าน คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย จะให้นาวาอากาศตรี ศิธา ทิวารี เลขาธิการพรรค ไปหารือในเย็นนี้ และไม่มีเงื่อนไขใดในการร่วมรัฐบาล และจะสนันสนุน นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล เป็นนายกรัฐมนตรี มีเงื่อนไขเดียวคือ ไม่เอา 2 ลุง ร่วมรัฐบาล

พรรคก้าวไกล ขอเวลา 30-45 วัน จัดตั้งรัฐบาล
นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล ยืนยัน เย็นนี้พรรคก้าวไกลจะเชิญหัวหน้าพรรคและแกนนำพรรคที่จะร่วมจัดตั้งรัฐบาล มาพูดคุยกัน และขอเวลาจัดตั้งรัฐบาล 30-45 วัน เมื่อบรรลุข้อตกลงจะแถลงอีกครั้ง ยืนยันจะไม่ให้สังคมกดดันสมาชิกวุฒิสภา หรือ สว. ว่าต้องเลือก นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์์ หัวหน้าพรรคเป็นนายกรัฐมนตรี

อย่างไรก็ตาม นายชัยธวัช ยืนยัน การหารือกับ 5 พรรคเพื่อจัดตั้งรัฐบาลจะยังไม่ลงรายละเอียดหรือในเอกสารบันทึกความเข้าใจ หรือ MOU จะพูดคุยถึงแนวทางจัดตั้งรัฐบาลก่อนจะแถลงอย่างเป็นทางการอีกครั้ง

กดติดตามช่อง CH7HD News ได้ที่ :
ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่

#ห้องข่าวภาคเที่ยง #ข่าวช่อง7 #CH7HDNEWS

Facebook
Ch7HD:
Ch7HD News:

Twitter
Ch7HD:

YouTube
Ch7HD:
CH7HD News:

TikTok
Ch7HD:
Ch7HD News:

Instagram
Ch7HD:
Ch7HD News:

ส่องนโยบาย 2 พรรคใหญ่ ก้าวไกล-เพื่อไทย ก่อนทำสัญญาร่วมรัฐบาล | เลือกตั้ง 66 วาระคนไทย “, นำมาจากแหล่งที่มา: https://www.youtube.com/watch?v=Jrcx6Y8Qens

แท็กของ ส่องนโยบาย 2 พรรคใหญ่ ก้าวไกล-เพื่อไทย ก่อนทำสัญญาร่วมรัฐบาล | เลือกตั้ง 66 วาระคนไทย: #สองนโยบาย #พรรคใหญ #กาวไกลเพอไทย #กอนทำสญญารวมรฐบาล #เลอกตง #วาระคนไทย

บทความ ส่องนโยบาย 2 พรรคใหญ่ ก้าวไกล-เพื่อไทย ก่อนทำสัญญาร่วมรัฐบาล | เลือกตั้ง 66 วาระคนไทย มีเนื้อหาดังต่อไปนี้: ห้องข่าวภาคเที่ยง – จากท่าทีของบรรดาว่าที่พรรคร่วมรัฐบาล จะเห็นจุดร่วมอยู่อย่างหนึ่งที่ไม่อยากจะพูดถึง คือ ปมร้อนแก้ไขมาตรา 112 แต่ความจริงก็ยังมีอีกหลายนโยบายในส่วนของสองพรรคใหญ่ที่มีทั้งลงตัว และเห็นต่าง

ส่องนโยบาย 2 พรรคใหญ่ ร่วมกันได้หรือไม่
เริ่มที่นโยบายแรก การแก้ไขมาตรา 112 ที่บัญญัติเอาไว้ว่า ผู้ใดหมิ่นประมาท หรืออาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ ต้องระวางโทษจำคุก 3-15 ปี

โดย พรรคก้าวไกล ประกาศจุดยืนทำต่อแน่ เพราะมองว่าโทษหนักเกินไป ควรปรับลดโทษลง เหลือจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือ ปรับไม่เกิน 3 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ รวมถึงถอดมาตรานี้ออกจากหมวดความมั่นคง เพิ่มเติมเนื้อหาให้สำนักพระราชวัง เป็นผู้ร้องทุกข์กล่าวโทษเอง

ขณะที่ พรรคเพื่อไทย มองว่า มาตรา 112 ปัญหา คือ การบังคับใช้ ส่วนตัวบทกฎหมาย หากจะแก้ไขต้องมีการพูดคุยกันในสภาฯ เสียก่อน

ส่วนนโยบายต่อมาที่ยังมีมุมมองที่แตกต่างกันอยู่บ้างระหว่าง 2 พรรค คือ กระเป๋าเงินดิจิทัล แจกเงิน 1 หมื่นบาท ให้ผู้มีอายุตั้งแต่ 16 ปีขึ้นไป เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ 6 เดือน ของพรรคเพื่อไทย โดย ก้าวไกล มองว่า เป็นการเสนอแก้ปัญหาเศรษฐกิจในระยะสั้น และต้องการให้สร้างงานในระยะยาวมากกว่า

ต่อที่นโยบายตรงกัน แต่อาจมีรายละเอียดต่างกันเล็กน้อย คือ เรื่องทหารรับใช้ชาติ พรรคก้าวไกล เสนอยกเลิกการเกณฑ์ทหาร หันไปใช้ระบบสมัครใจ รวมทั้งปรับลดขนาดกองทัพ ลดจำนวนนายพลเหลือ 30-40 เปอร์เซ็นต์ แต่ฝั่งเพื่อไทย เสนอปฏิรูปกองทัพเป็นทหารมืออาชีพ เกณฑ์ทหารโดยสมัครใจเช่นกัน

เช่นเดียวกับนโยบายแก้รัฐธรรมนูญ เรื่อง การป้องกันการทำ รัฐประหาร ที่ตรงกัน โดยพรรคเพื่อไทย เสนอกฎหมายป้องกันต่อต้านการรัฐประหาร ให้เป็นความผิดฐานเป็นกบฏ ไม่มีกำหนดอายุความ นิรโทษกรรมไม่ได้

ส่วนพรรคก้าวไกล ให้ดำเนินคดีในความผิดฐานกบฏเช่นกัน และเสนอห้ามนิรโทษกรรม เพิ่มสิทธิ์ให้ประชาชนและเจ้าหน้าที่ปฏิเสธการทำตามรัฐประหารได้

นโยบายที่เรานำเสนอตอนต้น ก็ได้เห็นว่ามีจุดต่างกันอยู่ ก็เกิดข้อสงสัยหากต้องร่วมกันจริง ๆ จะไปกันได้แน่หรือ

ลุ้น MOU ก้าวไกล ตกลงกันได้หรือไม่
16.00 น. วันนี้จะมีความเคลื่อนไหวการเมืองที่สำคัญเกิดขึ้น คือ การหารือร่วมกันระหว่าง 6 พรรค ที่ ก้าวไกล เป็นแกนนำตั้งรัฐบาลว่าจะตกลงกันได้หรือไม่

เรียกว่าอยากปิดจ็อบเร็วสำหรับ พรรคก้าวไกล หลังผ่านการเลือกตั้งมา 3 วัน ก็เริ่มขยับจับมืออีก 5 พรรค เพื่อทำ MOU ร่วมกันว่า มีเงื่อนไขอะไรที่จะร่วมรัฐบาลกันบ้าง โดยสาเหตุที่ต้องจัดทำ MOU เนื่องจากแต่ละพรรคมีการหาเสียงที่แตกต่างกัน จึงต้องตกลงร่วมกันว่าเมื่อจะร่วมรัฐบาลแล้วมีอะไรทำได้ ทำไม่ได้ และจะยอมรับเงื่อนไขกันได้แค่ไหน

ขณะที่ แกนนำเพื่อไทย ยังสงวนท่าทีขอรอดูเงื่อนไขของทางพรรคก้าวไกลก่อน ถ้ามีอะไรที่ไปด้วยกันได้ก็ทำได้เลย แต่อะไรที่ไม่ตรงกันต้องมาคุยกันก่อน

ส่วนท่าทีของพรรคการเมืองอื่น ๆ ก็เป็นไปในทิศทางเดียวกัน ขอรอดู MOU ที่พรรคก้าวไกล จัดทำมาก่อน แต่เบื้องต้นก็เรียกว่ามีความพร้อมที่จะจับมือกันแล้ว เนื่องจากเป็นขั้วฝ่ายค้านเดิม เคยทำงานร่วมกันมาก่อน มีเพียง 2 พรรคใหม่คือ ไทยสร้างไทย กับ เป็นธรรม ซึ่งก็ไม่น่าจะมีปัญหาที่จะเข้าร่วมรัฐบาล แต่ที่น่าสังเกตคือ บรรดาแกนนำพรรคการเมือง ต่างก็หลีกเลี่ยงที่จะพูดในประเด็นแก้ไขมาตรา 112 ที่ก้าวไกลชูธงนำในการหาเสียงครั้งนี้ และมีบางคนคาดการณ์ว่าเย็นนี้ได้พูดคุย แต่อาจยังไม่ถึงขั้นลงนามใน MOU

มีเพียงคนเดียวที่พูดจุดยืนชัดว่าไม่เห็นด้วยกับก้าวไกลในบางประเด็นเกี่ยวกับมาตรา 112 โดยเฉพาะเรื่องให้สำนักพระราชวัง เป็นผู้ร้องทุกข์ เมื่อเกิดการกระทำผิดขึ้น

ที่คิดกันว่าเย็นนี้จะได้เห็นภาพจับมือประกาศตั้งรัฐบาลร่วมกัน อาจต้องลุ้นหน่อยว่าสุดท้ายจะจบแค่ได้เจอ หรือจะไปต่อถึงขั้นจูงมือกันเข้าสภา พร้อมสัตยาบันโหวตเลือก คุณพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล เป็นนายกรัฐมนตรี

โดยยังมีสัญญาณบางอย่างจาก นายทักษิณ ชินวัตร ในคลับเฮาส์เมื่อคืน ที่น่าสนใจคือ แนะทางออกหากเสนอชื่อคุณพิธา แล้ว สว. ไม่โหวตให้ ก็ไปดึงพรรคการเมืองอื่นมาร่วมด้วย

ทางด้าน คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย จะให้นาวาอากาศตรี ศิธา ทิวารี เลขาธิการพรรค ไปหารือในเย็นนี้ และไม่มีเงื่อนไขใดในการร่วมรัฐบาล และจะสนันสนุน นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล เป็นนายกรัฐมนตรี มีเงื่อนไขเดียวคือ ไม่เอา 2 ลุง ร่วมรัฐบาล

พรรคก้าวไกล ขอเวลา 30-45 วัน จัดตั้งรัฐบาล
นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล ยืนยัน เย็นนี้พรรคก้าวไกลจะเชิญหัวหน้าพรรคและแกนนำพรรคที่จะร่วมจัดตั้งรัฐบาล มาพูดคุยกัน และขอเวลาจัดตั้งรัฐบาล 30-45 วัน เมื่อบรรลุข้อตกลงจะแถลงอีกครั้ง ยืนยันจะไม่ให้สังคมกดดันสมาชิกวุฒิสภา หรือ สว. ว่าต้องเลือก นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์์ หัวหน้าพรรคเป็นนายกรัฐมนตรี

อย่างไรก็ตาม นายชัยธวัช ยืนยัน การหารือกับ 5 พรรคเพื่อจัดตั้งรัฐบาลจะยังไม่ลงรายละเอียดหรือในเอกสารบันทึกความเข้าใจ หรือ MOU จะพูดคุยถึงแนวทางจัดตั้งรัฐบาลก่อนจะแถลงอย่างเป็นทางการอีกครั้ง

กดติดตามช่อง CH7HD News ได้ที่ :
ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่

#ห้องข่าวภาคเที่ยง #ข่าวช่อง7 #CH7HDNEWS

Facebook
Ch7HD:
Ch7HD News:

Twitter
Ch7HD:

YouTube
Ch7HD:
CH7HD News:

TikTok
Ch7HD:
Ch7HD News:

Instagram
Ch7HD:
Ch7HD News:

คำหลักของ ส่องนโยบาย 2 พรรคใหญ่ ก้าวไกล-เพื่อไทย ก่อนทำสัญญาร่วมรัฐบาล | เลือกตั้ง 66 วาระคนไทย: [คำหลัก]

ข้อมูลเพิ่มเติมของ ส่องนโยบาย 2 พรรคใหญ่ ก้าวไกล-เพื่อไทย ก่อนทำสัญญาร่วมรัฐบาล | เลือกตั้ง 66 วาระคนไทย:
ขณะนี้วิดีโอนี้มีจำนวนการดู 488838 วันที่สร้างวิดีโอคือ 2023-05-17 08:18:35 คุณสามารถดาวน์โหลดวิดีโอนี้ได้โดยไปที่ลิงก์นี้: https://www.youtubepp.com/watch?v=Jrcx6Y8Qens , tag: #สองนโยบาย #พรรคใหญ #กาวไกลเพอไทย #กอนทำสญญารวมรฐบาล #เลอกตง #วาระคนไทย

ขอบคุณที่รับชมวิดีโอ: ส่องนโยบาย 2 พรรคใหญ่ ก้าวไกล-เพื่อไทย ก่อนทำสัญญาร่วมรัฐบาล | เลือกตั้ง 66 วาระคนไทย

Để lại một bình luận

Email của bạn sẽ không được hiển thị công khai. Các trường bắt buộc được đánh dấu *